นายกฯย้ำเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ต้องถามสังคม ถามประชาชนก่อนถึงออกมาตรการได้ ยันไม่ใช่เปิดประเทศให้เที่ยว แต่จำกัดจำนวน เข้มข้นมาตรการเพื่อดูแลได้ ประเทศที่เข้ามาต้องยอมรับกติกา กฎหมายไทย ชี้คืนตั๋วสายการบินระหว่างประเทศครบแค่ 31 ต.ค. รัฐบาลสั่งขยายเวลาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสายการบิน องค์การอนามัยโลกจัดหาชุดตรวจไวรัสรู้ผลเร็ว 120 ล้านชุด แจกจ่ายกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขณะที่สหรัฐฯเตรียมแจกจ่ายชุดตรวจไวรัสรู้ผลเร็ว 150 ล้านชุดไปทั่วประเทศ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 29 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลอตแรก หลังมีข่าวเปิดรับนักท่องเที่ยวจากเมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงต้นเดือน ต.ค. มาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ว่า ต้องถามว่าจำเป็นต้องเปิดบ้างไหม เป็นกลุ่มๆได้ไหม มีการดูแลลักษณะของการนำร่องก่อนได้หรือไม่ ต้องถามสังคมและประชาชนผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวว่ารับได้หรือไม่ ถ้ารับได้ต้องช่วยดูแลกัน มาตรการถึงจะออกมาได้ ถ้าประชาชนในพื้นที่ไม่ตอบรับก็จะลำบาก คนที่เดือดร้อนก็ไม่ได้รับประโยชน์ คนที่ไม่เดือดร้อนไม่มีผลทางธุรกิจ ชีวิตเป็นปกติเขาอาจจะไม่เห็นชอบตรงนี้ แต่ประชาชนที่เหลือเราต้องนึกถึงเขาหรือเปล่า
นายกฯกล่าวต่อว่า รัฐบาลจะหามาตรการที่เหมาะสม ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแบบพิเศษ ไม่ใช่เปิดประเทศ ให้มีการท่องเที่ยวแต่จำกัดจำนวน เมื่อเข้ามาควบคุมดูแลได้ มีริสต์แบนด์ติดจีพีเอส มีแอปพลิเคชันติดตามตัวและพื้นที่ช่วยกันดูแล หากเดินทางเข้าประเทศไทยต้องยินยอมทำตามกติกาและกฎหมายของเรา ทั้งการกักตัว ติดตามประเมินผล อย่างร้านค้าต่างๆไม่ปฏิบัติตามมาตรการถูกปิดทันที แล้วไปปรับปรุงแก้ไขถึงจะเปิดใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงมาตรการคืนตั๋วสายการบินระหว่างประเทศจากผลกระทบโควิด-19 ที่ทุกสายการบินกำหนดให้เลื่อนการเดินได้ถึงวันที่ 31 ต.ค.ว่า กำหนดไว้แค่นั้น เป็นเรื่องของแต่ละสายการบิน ที่ผ่านมาเราขอความร่วมมือเขาขยายให้ได้ถึงเดือน ต.ค. วันนี้มีเครื่องเข้าออกประเทศส่วนใหญ่เป็นคนไทย ที่เราจำเป็นต้องรับกลับมา รวมถึงต่างชาติที่ต้องเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพื่อประกอบธุรกิจ กิจการหรือลูกจ้างทูต และเครื่องบินขนส่งสินค้า แต่ที่เป็นลักษณะคนเยอะๆ ยังไม่มี
นายกฯกล่าวด้วยว่า ตอนนี้โควิดยังไม่มีการแพร่ระบาดกันเองในประเทศ ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศที่มีความเสี่ยง ทหารก็ไปรับความเสี่ยงมา วันนี้เอาเข้าสถานที่กักกันทั้งหมด ที่จะเดินทางไปใหม่จำเป็นต้องไปตามสนธิสัญญา เตรียมการให้ทหารเหล่านั้นเตรียมป้องกันตัวเองไว้ด้วยเพื่อป้องกันการระบาด รัฐบาลไปสั่งมากๆไม่ได้เพราะสายการบินบางสายไม่ใช่ของเรา สั่งได้เฉพาะของเราเป็นหลัก ของต่างชาติต้องขอความร่วมมือ กระทรวงคมนาคมจะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติโครงการจัด หาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสี เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 878 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อใช้ในโรงพยาบาลต่างจังหวัด ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบผลการประชุม ศบค. ขยายระยะเวลา พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน ออกไป 1 เดือน คือ วันที่ 1-31 ต.ค. 2563 นายกฯยังพูดถึงกรณีเมียนมา พบการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น จึงกำหนดมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ให้ไทยให้ความช่วยเหลือแบ่งปันแนวทางที่เราใช้และประสบความสำเร็จ พร้อมเน้นย้ำว่าประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและเตรียมปลดล็อกการดำเนินธุรกิจ การท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพราะเรื่องเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญพอๆกับที่ยังต้องควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าว บางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังมีความรุนแรง มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกกว่า 30 ล้านราย ทำให้คนต่างด้าวจำนวนหนึ่งยังคงตกค้างอยู่ในประเทศไทย ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตนเองได้ ที่ประชุมจึงอนุมัติร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าว เพื่ออนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในประเทศไทยเป็นกรณีไปพลางก่อน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-31 ต.ค.
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในไทย ศบค.รายงาน ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 14 ราย เป็นทหารไทยเดินทางมาจากซูดาน 7 ราย หญิงไทยจากตุรกี 1 ราย หญิงไทยจากฮ่องกง 3 ราย อินเดีย 3 รายเป็นแม่ลูก 1 คู่ อีก 1 รายเป็นชายชาวอินเดีย
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก นายเทดรอส อะดานอม เกเบรเยซูส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ว่า WHO ทำสัญญากับหลายบริษัทในวงเงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจัดหาชุดตรวจไวรัส รู้ผลเร็วภายในไม่กี่นาทีรวมกว่า 120 ล้านชุด ไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางรวม 133 ประเทศทั่วโลก ภายใน 6 เดือนข้างหน้า เพื่อเสริมศักยภาพกลุ่มประเทศเหล่านี้ตรวจหาไวรัสได้เพิ่มมากขึ้นใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศร่ำรวย ชุดตรวจรู้ผลเร็วดังกล่าว ราคาเพียงชุดละ 5 ดอลลาร์ ใช้ง่ายกว่าการตรวจแบบพีซีอาร์ที่มีการป้ายกวาดเก็บตัวอย่างของเหลวในโพรงจมูกและช่องปากตรวจหาเชื้อไวรัส
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ แถลงถึงการจัดแจกชุดตรวจรู้ผลเร็วเช่นกัน โดยระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะเริ่มแจกจ่ายชุดตรวจไวรัสรู้ผลเร็วภายใน 15-30 นาที จำนวน 150 ล้านชุด ไปทั่วประเทศ เริ่มสัปดาห์นี้ เรียกร้องผู้ว่าการของแต่ละรัฐเน้นตรวจกับเด็กนักเรียนก่อน แม้ว่าแต่ละรัฐมีสิทธิ์เลือกดำเนินการได้เอง ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ทำสัญญาซื้อชุดตรวจไวรัสรู้ผลเร็วจากบริษัทยา แอ็บบอตต์ ลาบอราทอรีส์ ในสหรัฐฯเป็นมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ เพื่อพยายามควบคุมการระบาดในประเทศซึ่งสหรัฐฯยังเป็นจุดศูนย์กลางการระบาดของโลก
ส่วนการระบาดในประเทศที่น่าสนใจ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 50 คน ถือว่าพบผู้ติดเชื้อต่ำสุดในรอบเกือบ 50 วัน บ่งบอกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่รัฐบาลประกาศใช้ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ เริ่มได้ผล แต่เจ้าหน้าที่ยังเรียกร้องชาวเกาหลีใต้อยู่แต่บ้านและงดการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด อย่างเทศกาลเก็บเกี่ยวพืชผล “ชูซอก” หรือวันขอบคุณพระเจ้าของชาวเกาหลี ที่จะเริ่มในวันที่ 30 ก.ย.เพื่อควบคุมการระบาด ทั้งนี้ เกาหลีใต้ มีผู้ติดเชื้อรวม 23,699 คน ผู้เสียชีวิต 407 คน ด้านเมียนมา ที่พบการระบาดรอบใหม่ที่รัฐยะไข่เมื่อเดือนที่แล้วก่อนระบาดเข้านครย่างกุ้งด้วยยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 11,631 คน ผู้เสียชีวิต 226 คน
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเมื่อวันที่ 29 ก.ย. อยู่ที่ 33.57 ล้านคน ผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกทะลุเกิน 1 ล้านคน รักษาหายทั่วโลกรวม 24.89 ล้านคน สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 7.36 ล้านคน และ 2.09 แสนคน ตามลำดับ ตามด้วย อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 6.14 ล้านคน ผู้เสียชีวิต 9.63 หมื่นคน และบราซิล มีผู้ติดเชื้อ 4.74 ล้านคน ผู้เสียชีวิต 1.42 แสนคน
อ่านเพิ่มเติม...
"เปิด" - Google News
September 30, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/2S8PXKm
เล็งเปิดรับอีกนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยว ให้ใส่ "ริสต์แบนด์" ฝังจีพีเอสติดตาม - ไทยรัฐ
"เปิด" - Google News
https://ift.tt/3cla53G
No comments:
Post a Comment