โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-2021 เปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดย ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า จะพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ ขณะที่เกมของ 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ยังไม่ระบุวันแข่ง
วันที่ 20 ส.ค.63 เกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-2021 จะเปิดสนามในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน โดยจะเตะทั้งหมด 6 คู่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด แชมป์ ลีก เดอะแชมเปียนชิพ ที่ได้ลับมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ขณะที่ เลสเตอร์ ที่จบอันดับ 5 ฤดูกาลที่แล้ว จะบุกไปเยือน เวสต์บรอมวิช น้องใหม่ ด้าน สเปอร์ส จะรับการมาเยือน ของเอฟเวอร์ตัน ด้าน อาร์เซนอล แชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาลที่ผ่านมา จะทำศึกลอนดอน ดาร์บี กับ ฟูแลม อีกหนึ่งทีมน้องใหม่
ส่วนเกมวันจันทร์ที่ 14 กันยายน เชลซี ที่จบอันดับ 4 จะบุกไปเยือน ไบรท์ตัน และ เชฟฯ ยูไนเต็ด จะพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ส่วน 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังไม่ถูกใส่ลงโปรแกรม เนื่องจากทั้งคู่เพิ่งจบจากเกมในถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก ตามลำดับ และจะได้สิทธิ์พักแข่งให้ครบ 30 วันเป็นอย่างน้อย เพื่อลดความอ่อนล้าของผู้เล่นที่ต้องกรำศึกหนัก
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการเลือนโปรแกรม เบิร์นลีย์ จะพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเปิดบ้านรับมือ แอสตัน วิลล่า วันเสาร์ที่ 12 กันยายน
โปรแกรมนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-2021
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563
คริสตัล พาเลซ-เซาแธมป์ตัน
ฟูแลม-อาร์เซนอล
ลิเวอร์พูล-ลีดส์ ยูไนเต็ด
สเปอร์ส-เอฟเวอร์ตัน
เวสต์บรอมวิช-เลสเตอร์ ซิตี้
เวสต์แฮม-นิวคาสเซิล
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2563
ไบรท์ตัน-เชลซี
เชฟฯ ยูไนเต็ด-วูล์ฟแฮมป์ตัน
ยังไม่ระบุวันแข่ง
เบิร์นลีย์-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้-แอสตัน วิลล่า
สำหรับฤดูกาลใหม่จะมีระยะเวลาสั้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว ประมาณ 5 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ซีซั่นที่ผ่านมาจบช้ากว่าปกติเกือบ 3 เดือน และจะไม่มีการพักเบรกหนีหนาวเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา โดยนัดสุดท้ายของฤดูกาลจะจบวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม ปีหน้า
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-2021
https://ift.tt/2YjP4SN
อ่านเพิ่มเติม...
"เปิด" - Google News
August 20, 2020 at 03:37PM
https://ift.tt/2FK1gWN
เปิดพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล รับน้อง ลีดส์-อาร์เซนอล เยือน ฟูแลม - ไทยรัฐ
"เปิด" - Google News
https://ift.tt/3cla53G
No comments:
Post a Comment