
ข้อเสนอทำ “ภูเก็ตโมเดล” ทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการพูดกันมา 2–3 เดือนแล้ว ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและบริการระดมสมองคิดโมเดลนี้เสนอไปยังรัฐบาล คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ ก็เห็นด้วยและพยายามผลักดันอยู่ตลอด แต่ดูเหมือนจะติดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่กล้าติดสินใจเสียที ทำให้เรื่องนี้ถูกยื้อมาเป็นเดือน
ทุกประเทศต้องปรับตัวเข้ากับยุคนิวนอร์มอล ส่วนจะปรับแบบไหนอย่างไร ขึ้นอยู่ปัจจัยเงื่อนไขแตกต่างกันไป ซึ่งต้องทำให้เกิดความสมดุลทั้งด้านความปลอดภัยสาธารณสุขกับเศรษฐกิจปากท้อง
หลายประเทศแบกรับปัญหาเศรษฐกิจไม่ไหว จำเป็นต้องเปิดประเทศ โดยเฉพาะแถบยุโรป ซึ่งต้องแลกกับการที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ประชากรส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เพราะช่วยปลดทุกข์คลายเครียด บรรเทาปัญหาปากท้องได้ดีกว่า
ส่วนนิวนอร์มอลแบบที่ไทยทำอยู่คือ พยายามปิดประเทศให้นานที่สุด ไม่กล้าเปิดรับนักท่องเที่ยว เพราะกลัวนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาด หากเปรียบเทียบกับ การทดลองเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พอมีเชื้อติดเข้ามาบ้าง ต้องรีบหาให้เจอ คุมให้อยู่ ถ้าพื้นที่ไหนเริ่มเกิดรูรั่วมีความเสี่ยงระบาด ก็สั่งล็อกดาวน์จนกว่าพ้นขีดอันตราย ท่านผู้อ่านคิดว่าแนวทางไหนจะเป็นนิวนอร์มอลที่เหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่ากันครับ
นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และเป็นกรรมการ ศบค. เพิ่งให้สัมภาษณ์พิเศษหน้าเศรษฐกิจไทยรัฐว่า การรักษาพรหมจรรย์เป็นเรื่องดีและถูกต้องแล้ว แต่ถ้าแง้มประตูบ้านออกมาสักนิดเพื่อรับเอาสิ่งต่างๆ เข้ามา มันอาจจะท้าทาย แต่ก็จะดีกับเรา เพราะระบบการแพทย์และสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมรองรับการรักษาได้วันละ 50-100 คน หากการแพร่ระบาดกลับมาในรอบสอง
นพ.ปิยะมิตรกล่าวว่า เคยเสนอไปในครั้งแรกๆ เลยว่า ถ้าจะเอานักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวภาคใต้ รัฐบาลหรือท้องถิ่นควรจัดแพ็กเกจในสถานที่ที่เป็นเกาะและรีสอร์ตที่มีระดับ เช่น พังงา ศรีพันวา เกาะยาว ภูเก็ต รัฐบาลไทย สามารถจัดทำแพ็กเกจเสนอนักท่องเที่ยวในแบบที่รวมเอา State Quarantine เข้าไปด้วยเลย คือรักษาตัวไปพร้อมกับท่องเที่ยวไปในตัว ไปอยู่ในสถานที่ที่จัดให้
นพ.ปิยะมิตรบอกด้วยว่า มีตัวอย่างเกาหลีใต้เอานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา 40,000-50,000 คน จะมีคนติดเชื้อไวรัสประมาณไม่เกิน 5% บางวันมีคนติดเชื้อ 100 คน แต่ระบบการแพทย์ของเขาเอาอยู่
ก็ถือเป็นข้อมูลที่ดีจากคุณหมอที่เข้าใจสภาพปัญหาและเห็นอกเห็นใจความทุกข์ยากของชาวบ้าน ถ้ารัฐบาลยังรีรอไม่กล้าตัดสินใจ เศรษฐกิจไทยจะพังยิ่งกว่านี้ ผู้คนจะอดอยากมากขึ้นอีก
วันก่อนสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เพิ่งออกแถลงการณ์ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เสนอมาตรการหลายอย่างเพื่อประคับประคองธุรกิจโรงแรมให้ผ่านวิกฤติช่วงนี้ไปให้ได้ก่อน นอกจากนี้ คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เผยด้วยว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมเลิกจ้างไปแล้วประมาณ 1 ล้านคน หากการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ไทยไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ถึงกลางปี 2564 โรงแรมต้องเลิกจ้าง ปิดกิจการและขายกิจการจำนวนมาก
ตัวเลขตกงาน 1 ล้านคนคิดเฉพาะลูกจ้างในธุรกิจโรงแรมนะครับ ถ้ารวมตัวเลขตกงานของธุรกิจอื่นในภาคการท่องเที่ยวและบริการ จะมีมากกว่านี้หลายเท่า ที่น่าหนักใจที่สุดคือ จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายทาง ไม่รู้ว่าวิกฤตินี้จะยืดยาวแค่ไหน ต่อให้คิดค้นวัคซีนได้ก็ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นฟูกลับไปสู่สภาพเดิม
ถึงแม้รัฐบาลพยายามกระตุ้นไทยเที่ยวไทย แต่ก็ยังไม่พอประคองธุรกิจท่องเที่ยวให้รอดได้ อีกอย่างรัฐบาลจะมีเงินอัดฉีดได้อีกนานแค่ไหน ผมว่าบิ๊กตู่น่าจะลองเปิดรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว ส่วนจะต้องออกมาตรการป้องกันอย่างไรให้รัดกุมก็ระดมความเห็นกันเข้ามาได้
ขืนปิดประเทศอยู่อย่างนี้ ต่อให้ได้ชื่อว่าเป็นประเทศชั้นนำปลอดโควิด แต่คนในประเทศอดตายกันหมด มันคุ้นกันไหมครับ.
“ลมกรด”
อ่านเพิ่มเติม...
"เปิด" - Google News
September 17, 2020 at 05:15AM
https://ift.tt/3iEKx5J
เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว - ไทยรัฐ
"เปิด" - Google News
https://ift.tt/3cla53G
No comments:
Post a Comment