Pages

Thursday, September 3, 2020

เปิดปม ความเป็นศัตรูระหว่างอิสราเอลกับโลกอาหรับ เริ่มขึ้นจากจุดไหน - ไทยรัฐ

tombolsakti.blogspot.com

ช่วงแรก เป็นการต่อสู้ระหว่างชาวยิวและชาวอาหรับปาเลสไตน์ ผลก็คือชาวยิวสามารถยึดครองพื้นที่เกือบทั้งหมดที่สหประชาชาติยกให้พวกเขา ทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์กลุ่มแรกขึ้น จากนั้นชาวยิวก็ประกาศก่อตั้งรัฐอิสราเอลในวันที่ 14 พ.ค. 2491 กลายเป็นรัฐยิวแห่งแรกของโลกในรอบ 2,000 ปี นำไปสู่สงครามช่วงที่ 2

อาคารบนถนน เบน เยฮูดา กลางกรุงเยรูซาเลม ถูกทำลายระหว่างสงครางอิสราเอล-อาหรับครั้งแรก ในเดือนก.พ. 2491 ก่อนมีการประกาศก่อตั้งอิสราเอล
อาคารบนถนน เบน เยฮูดา กลางกรุงเยรูซาเลม ถูกทำลายระหว่างสงครางอิสราเอล-อาหรับครั้งแรก ในเดือนก.พ. 2491 ก่อนมีการประกาศก่อตั้งอิสราเอล

อิสราเอลกำเนิดขึ้นบนโลกได้ไม่นาน ชาติเพื่อนบ้านชาวอาหรับ 5 ประเทศ ได้แก่ อียิปต์, ซีเรีย, จอร์แดน, อิรัก และเลบานอน ก็ประกาศสงครามและบุกเข้าดินแดนที่เคยเป็นปาเลสไตน์ โดยตอนแรกคิดว่าจะสามารถเอาชนะประเทศน้องใหม่แห่งนี้ได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายพวกเขากลับถูกตีโต้จนต้องถอยร่น

หลังต่อสู้กับมานานเกือบ 1 ปี สงครามครั้งนี้จบลงโดยที่ทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงหยุดยิงในปี 2492 โดยทรานส์จอร์แดน ควบรวมดินแดนซึ่งปัจจุบันคือ เขตเวสต์ แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งรวมถึงเขตเมืองเก่า ขณะที่อียิปต์ควบรวมฉนวนกาซา ส่วนอิสราเอลได้พื้นที่ถึง 80% ของดินแดนปาเลสไตน์ยุคที่อังกฤษยึดครอง

ยุทโธปกรณ์ของกองกำลังพันธมิตรอาหรับประชิดชายแดนอิสราเอล ก่อนบุกโจมตีชาวยิวในปาเลสไตน์
ยุทโธปกรณ์ของกองกำลังพันธมิตรอาหรับประชิดชายแดนอิสราเอล ก่อนบุกโจมตีชาวยิวในปาเลสไตน์

สงครามดังกล่าวซึ่งถูกเรียกว่า ‘สงครามอาหรับ-อิสราเอล ครั้งที่ 1’ ทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 700,000 คน กลายเป็นผู้พลัดถิ่น หลายพันคนไปตั้งถิ่นฐานในฉนวนกาซา ขณะที่อีกจำนวนมากติดค้างอยู่ในค่ายผู้อพยพระหว่างอียิปต์กับอิสราเอล และลูกหลานของพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้

กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ สุมไฟความขัดแย้ง

นับตั้งแต่สิ้นสุดสงคราม 6 วันในปี 2510 ซึ่งอิสราเอลยึดฉนวนกาซากับคาบสมุทรไซนายจากอียิปต์ รวมทั้ง เขตเมืองเก่าของนครเยรูซาเลม กับเขตเวสต์ แบงก์ ที่จอร์แดนครอบครองอยู่ และที่ราบสูงโกลันของซีเรีย ชาวปาเลสไตน์ก็เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านอิสราเอลมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพื้นที่ที่อิสราเอลได้มา มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่กว่า 3 ล้านคน

ชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์ แบงก์ ก่อตั้ง ‘องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์’ (PLO) ขึ้นมา โดยมี นายยัสเซอร์ อาราฟัต เป็นประธาน มีเป้าหมายเดียวคือยึดดินแดนปาเลสไตน์ที่อังกฤษเคยครอบครองคืนมา พวกเขาคอยก่อการร้ายโจมตีดินแดนและผลประโยชน์ของอิสราเอล รวมถึงก่อเหตุจับนักกีฬาชาวอิสราเอลเป็นตัวประกันที่การแข่งขันโอลิมปิกที่มิวนิก เมื่อ พ.ศ. 2515

แผนที่ซึ่งแสดงให้เห็น อาณาเขตของอิสราเอล รวมถึงพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา ที่อยู่ในการครอบครองของอิสราเอล
แผนที่ซึ่งแสดงให้เห็น อาณาเขตของอิสราเอล รวมถึงพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา ที่อยู่ในการครอบครองของอิสราเอล

ปีต่อมาเกิด ‘สงครามยมคิปปูร์’ อียิปต์กับซีเรียพยายามโจมตีอิสราเอลเพื่อทวงดินแดนที่เสียไปกลับคืนมา ผลคือล้มเหลว ในปี 2525 อิสราเอลยกทัพบุกเลบานอนหลังการก่อตั้งกลุ่ม ‘ฮีซบอลเลาะห์’ องค์กรต่อต้านอิสราเอล และทิ้งทหารไว้ที่นั่นนานหลายสิบปี ในปี 2530 ที่เขตเวสต์ แบงก์ เกิดการลุกฮือของประชาชนปาเลสไตน์เป็นครั้งแรก ตามด้วยครั้งที่ 2 ในปี 2543 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่อิสราเอลถอนทหารทั้งหมดจากเลบานอน

หลังจากฉนวนกาซากลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของชาวปาเลสไตน์ ตามความตกลงออสโล พื้นที่แห่งนี้ก็ถูกกลุ่มการเมืองหัวรุนแรง ‘ฮามาส’ ซึ่งชนะการเลือกตั้งยึดครองในปี 2549 และใช้เป็นฐานในการโจมตีอิสราเอล จนเกิดการปะทะครั้งใหญ่ 3 ครั้ง คือ ปฏิบัติการ ‘Case Lead’ (พ.ศ. 2551-2552) กับ ปฏิบัติการ ‘Pillar of Defense’ (พ.ศ. 2555) โดยทั้ง 2 ฝ่ายยิงจรวดตอบโต้กัน

ในปี 2557 สมาชิกมีกลุ่มฮามาส 2 คน ลักพาตัวและฆาตกรรมวัยรุ่นอิสราเอล 3 ราย นำไปสู่การปะทะครั้งที่ 3 คือปฏิบัติการ ‘Protective Edge’ ปี 2557 กินระยะเวลานาน 7 สัปดาห์

ผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ 5 คนกับตัวประกันอีก 9 คน ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังฐานทัพอากาศ เฟือร์สเทินเฟลท์บรุค ที่ที่ตำรวจเยอรมนีพยายามบุกช่วยตัวประกันแต่ล้มเหลว ทำให้ทั้งหมดเสียชีวิต
ผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ 5 คนกับตัวประกันอีก 9 คน ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังฐานทัพอากาศ เฟือร์สเทินเฟลท์บรุค ที่ที่ตำรวจเยอรมนีพยายามบุกช่วยตัวประกันแต่ล้มเหลว ทำให้ทั้งหมดเสียชีวิต

ความพยายามเจรจาสันติภาพ

แม้ว่าอิสราเอลกับชาติอาหรับจะมีปัญหากันมาตลอด แต่บางประเทศในกลุ่มชาติอ่าวอาหรับ ซึ่งประกอบด้วย บาห์เรน, คูเวต, อิรัก, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย และยูเออี ก็สานสัมพันธ์กับอิสราเอลแบบลับๆ โดยที่ต้องทำแบบเงียบๆ ก็เพราะอิสราเอลมีปัญหากับปาเลสไตน์

พวกเขายังพยายามแก้ปัญหาในภูมิภาคด้วยสันติวิธีหลายครั้ง โดยการเจรจาครั้งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2520 เมื่อประธานาธิบดี อันวาร์ ซาดิต แห่งอียิปต์ เจรจากับอิสราเอล ที่แคมป์เดวิด โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง ผลการเจรจาครั้งนี้ทำให้อียิปต์เป็นชาติอาหรับประเทศแรกที่ ตกลงจะพัฒนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลไปสู่ระดับปกติ ส่วนอิสราเอลตอบแทนโดยคืนพื้นที่ไซนายให้

ในช่วงระหว่างปี 2534-2536 รัฐบาลนอร์เวย์ เป็นตัวกลางเจรจาระหว่าง องค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ ในเขตเวสต์ แบงก์ กับอิสราเอล จนบรรลุ ‘ความตกลงออสโล’ ในท้ายที่สุด ทำให้เกิดการก่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติของปาเลสไตน์ในเวสต์ แบงก์ กับ ฉนวนกาซา แม้ปัญหาเรื่องที่อยู่ชาวยิวและกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลในพื้นที่ทั้งสองยังไม่ได้รับการแก้ไขก็ตาม

ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ประท้วงที่ชายแดนอิสราเอล เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2562
ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ประท้วงที่ชายแดนอิสราเอล เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2562

อย่างไรก็ตาม การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับชาติอาหรับหลายครั้งต้องจบลงด้วยความล้มเหลว หรือไม่สามารถไปต่อได้ เพราะหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่เป็นมาตลอดหลายทศวรรษคือ อิสราเอลต้องยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลก็ไม่ยอม เห็นชัดจาก ‘แผนริเริ่มสันติภาพอาหรับ’ (Arab Peace Initiative) ในปี 2545 ซึ่งเรียกร้องให้อิสราเอลถอนตัวออกจากดินแดนปาเลสไตน์ที่ได้มาหลังสงคราม 6 วัน แลกกับการให้ชาติอาหรับยอมรับอิสราเอล

แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดระหว่าง อิสราเอล กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แสดงให้เห็นว่า อะไรๆ อาจไม่เป็นเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เมื่อผลประโยชน์ต้องกัน หลักการที่ยึดถือมาตลอด ก็อาจไม่จำเป็น

ผู้แทนอิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลงนามเอกสารที่กรุงอาบูดาบี เมื่อ 1 ก.ย. 2563
ผู้แทนอิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลงนามเอกสารที่กรุงอาบูดาบี เมื่อ 1 ก.ย. 2563

ฝ่าทางตัน อิสราเอลฟื้นสัมพันธ์ยูเออี

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2563 อิสราเอลกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศบรรลุข้อตกลงที่เรียกว่า ‘ความตกลงอับราฮัม’ ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลางเจรจา โดยสัญญาจะฟื้นความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ทั้งธุรกิจ, การทูต, การท่องเที่ยว และอื่นๆ สู่ระดับปกติ ขณะที่อิสราเอลยอมระงับแผนการควบรวมพื้นที่บางส่วนของเขตเวสต์ แบงก์ เป็นของพวกเขาเอง เปิดทางเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์

ข้อตกลงนี้ทำให้ ยูเออี กลายเป็นประเทศอาหรับชาติที่ 3 ต่อจากอียิปต์และจอร์แดน ที่จะฟื้นสัมพันธ์กับอิสราเอล และเป็นชาติสมาชิกอ่าวอาหรับชาติแรก ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า นี่เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ และคาดหวังว่าชาติอาหรับและชาติมุสลิมอื่นๆ จะเจริญรอยตาม ยูเออี

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เรียกเสียงประณามจากปาเลสไตน์ทันที พร้อมโจมตียูเออีว่าเป็นพวกทรยศ และเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับจากอาบูดาบี

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

มีโอกาสที่ชาติอาหรับอื่นๆ จะทำตามยูเออีหรือไม่?

หากถามว่า มีโอกาสหรือไม่ที่ประเทศอาหรับอื่นๆ จะเจริญรอยตามยูเออี คำตอบคือ มี แต่ไม่ใช่ทุกประเทศ และอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในภูมิภาคแห่งนี้

เช่น บาห์เรน กับ โอมาน ออกมาแสดงความยอมรับความตกลงอับราฮัม และชื่นชมยูเออีว่าเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด โดยบาห์เรนเป็นประเทศอ่าวอาหรับที่เชื่อกันว่าจะทำตามยูเออีในไม่ช้า เพราะที่ประชุมสันติภาพตะวันออกกลางนำโดยสหรัฐฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม บาห์เรนส่งสัญญาณเปิดกว้างเรื่องการผูกสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอิสราเอล

ด้านซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลักดัน แผนริเริ่มสันติภาพอาหรับ ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับความตกลงอับราฮัม ทำให้นักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน สนับสนุนข้อตกลงนี้ แต่เลือกที่จะเงียบไว้ เพราะคิงซัลมาน พระราชบิดาของพระองค์ ไม่เห็นด้วยกับการฟื้นความสัมพันธ์กับอิสราเอล ก็เป็นได้ ส่วนอิหร่าน, กาตาร์ และตุรกี ต่างประณามความตกลงนี้ทั้งหมด และขู่จะเรียกทูตกลับจากอาบูดาบีด้วย

กองทัพอิสราเอลเพิ่งจัดการฝึกซ้อมทางทหารบริเวณที่ราบสูงโกลัน ขู่ซีเรีย เมื่อ 31 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา
กองทัพอิสราเอลเพิ่งจัดการฝึกซ้อมทางทหารบริเวณที่ราบสูงโกลัน ขู่ซีเรีย เมื่อ 31 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับเลบานอนคงฟื้นความสัมพันธ์กับอิสราเอลได้ยาก เนื่องจากยังมีความตึงเครียดกับกลุ่มฮีซบอลเลาะห์ เช่นเดียวกับ ซีเรีย ที่ปะทะกับอิสราเอลหลายครั้ง เรื่องที่ราบสูงโกลัน ที่ยังอยู่ในการปกครองของรัฐบาลยิว ขณะที่กับ อิรัก แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความตึงเครียดเรื่องชาวเคิร์ด แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็สร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าและการข่าวกรองมานานแล้ว

อิหร่านที่คอยเป็นมิตรกับอิสราเอล ตอนนี้ถูกรัฐบาลยิวมองว่าเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงไปแล้ว ซึ่งเป็นมุมมองเดียวกับสหรัฐฯ ประเทศแรกที่ให้การยอมรับอิสราเอลเป็นประเทศ ขณะที่ตุรกีมีความสัมพันธ์ทางทหารอย่างไม่เป็นทางการกับอิสราเอล แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตุรกีพยายามเพิ่มบทบาทในภูมิภาคมากขึ้น ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มไม่ลงรอยกัน และตุรกีก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ประณามความตกลงอับราฮัมด้วย

ผู้เขียน: H2O

ที่มา: NewWorldEncyclopedia , WashingtonPost , History

Let's block ads! (Why?)



"เปิด" - Google News
September 04, 2020 at 07:00AM
https://ift.tt/32Uu2fd

เปิดปม ความเป็นศัตรูระหว่างอิสราเอลกับโลกอาหรับ เริ่มขึ้นจากจุดไหน - ไทยรัฐ
"เปิด" - Google News
https://ift.tt/3cla53G

No comments:

Post a Comment